เมื่อวันที่ 20 ก.ย. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมทางหลวง (ทล.) เร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ชาว ต.เกิ้ง อ.เมืองมหาสารคาม จ.มหาสารคาม เนื่องจากมีข้อร้องเรียนว่าถนนสาย ทล.213 บริเวณถนนถีนานนท์ ต.เกิ้ง อ.เมืองมหาสารคาม จ.มหาสารคาม มีไหล่ทางทรุดตัว และแตกร้าว เหลือช่องจราจรที่สามารถสัญจรได้เพียง 1 ช่องจราจร ส่งผลให้การจราจรติดขัดเป็นระยะทางยาว และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ให้สามารถสัญจรได้อย่างสะดวกปลอดภัยโดยด่วน อย่างไรก็ตามปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากเกิดเหตุอุทกภัยตั้งแต่ช่วงปลายปี 65 แต่ปัจจุบันยังไม่ได้รับการแก้ไข จึงได้เร่งรัด ทล. ให้สามารถสัญจรได้อย่างสะดวกปลอดภัยโดยด่วน
ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดี ทล. กล่าวว่า แขวงทางหลวงมหาสารคาม รายงานเบื้องต้นว่า บริเวณจุดเกิดเหตุดังกล่าว การประปาส่วนภูมิภาคได้ดำเนินการดึงท่อลอดในโครงการงานย้ายแนวท่อประปาออกจากแนวประสบภัยธรรมชาติผนังกั้นลำน้ำชีทรุดตัว บริเวณ ทล.213 ตอน มหาสารคาม-หนองขอน ระหว่าง กม. ที่ 3+642-3+940 เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและอุปสรรคในการบูรณะซ่อมแซม ทล.213 แต่เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 66 บริเวณดังกล่าวได้เกิดไหล่ทางทรุดตัว ผิวจราจรบวมตัวและแตกร้าว มีน้ำ และสารละลายเบนไทไนท์ (Bentonite) ที่ใช้ในการคว้านเจาะท่อลอดไหลขึ้นบนผิวจราจรคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นายสราวุธ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากช่วงวันที่ 15-17 ก.ย. ที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ และพื้นที่ตอนบนตลอดลำน้ำไหลผ่าน ทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากระดับน้ำเดิมประมาณ 0.60 เมตร ส่งผลให้ดินโดยรอบรูเจาะที่ระดับความลึกประมาณ 5.70 เมตร เกิดการอิ่มตัว ทำให้สารละลายเบนไทไนท์ไม่สามารถแทรกตัวออกด้านข้าง และด้านล่างของรูเจาะได้ จึงเกิดการไหลดันขึ้นด้านบน ดันให้ชั้นผิวทางบวมตัวขึ้น และแตกร้าว อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถปิดการจราจร เพื่อเจาะรูระบายน้ำได้ เนื่องจาก ทล.213 เป็นเส้นทางหลักเข้าสู่ จ.มหาสารคาม มีการจราจรติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วน
นายสราวุธ กล่าวอีกว่า ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ให้เร่งแก้ปัญหาผลกระทบจากการดันท่อลอดของการประปาส่วนภูมิภาคแล้ว โดยให้เร่งดำเนินการปรับปรุงชั้นโครงสร้างทางให้มีความแข็งแรง ด้วยวิธีการอุดรอยแตกร้าวด้วยซีเมนต์มวลเบส รวมถึงการปรับปรุงชั้นพื้นทางโดยวิธีงานหมุนเวียนวัสดุชั้นทางเดิมมาใช้ใหม่ (Pavement In-Place Recycling) และการปรับปรุงชั้นผิวทางแอสฟัลท์ติกคอนกรีต อีกทั้งปรับช่วงเวลาสัญญาณไฟจราจรระหว่างแยกดอนยม (ทางเข้ามหาวิทยาลัยมหาสารคาม)-แยกวังยาว เพื่อให้มีความสัมพันธ์และสอดรับกันมากขึ้น
พร้อมทั้งปรับช่องจราจรให้รถจักรยานยนต์ใช้ช่องทางในช่องไหล่ทาง เพื่อลดการตัดกระแสจราจรในช่องทางหลัก รวมถึงการติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยเพิ่มเติม เพื่อความปลอดภัยแก่ผู้ใช้เส้นทาง ตามข้อสั่งการของ รมว.คมนาคม คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ พร้อมเปิดการจราจรให้ใช้เส้นทางได้ปกติภายในวันที่ 22 ก.ย. 66 ทั้งนี้หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วน ทล. โทร. 1586 โทรฯ ฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง.