เป็นที่ทราบกันไปทั่วโลกว่า ประเทศไทยพยายามทำให้ “กัญชา” กลายเป็นพืชถูกกฎหมายที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ โดย อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตั้งเป้าให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางระดับโลกด้านกัญชาเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ และประกาศนำกัญชาออกจากรายชื่อสารเสพติดต้องห้ามในเดือนมิถุนายน 2565
แต่ไม่ถึง 1 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์กัญชาไทยกลับดูเหมือนไม่ไปไหน และสิ่งที่งอกเงยออกมาไม่ใช่ประโยชน์ แต่เป็นปัญหา
นอกจากไทยจะเผชิญกับปัญหากัญชาระบาดในหมู่เยาวชนแล้ว อัลจาซีรายังรายงานว่ามีปัญหาเกิดกับผู้ปลูกและผู้ขายชาวไทยที่ขายกัญชาไม่ออก เพราะถูกตัดราคาโดย “กัญชานำเข้าผิดกฎหมายจากสหรัฐฯ” ซึ่งขายในราคาที่ถูกกว่ากัญชาที่คนไทยปลูกเอง
ธุรกิจขายกัญชาในท้องถิ่นกล่าวว่า ผู้ค้าต่างชาติได้เข้ามาฉกฉวยโอกาสในตลาด โดยมีร้านขายยาหลายแห่งทั่วประเทศผลักดันกัญชาราคาถูกที่นำเข้าอย่างผิดกฎหมายจากสหรัฐฯ ซึ่งไม่เสียภาษีและสามารถขายในราคา 2-5 เท่าของราคาเดิมกินกำไรได้สบาย ๆ
เลือกตั้ง 2566 : ผู้พิการก็ไม่เว้น! แฉเลือกตั้งล่วงหน้าผิดปกติ โซเชียลติดแฮชแท็กเดือด
เลือกตั้ง 2566 : "อนุทิน" ฟาด "เศรษฐา" ปากไม่มีหูรูด ปราศรัยให้ร้าย กัญชามอมเมา
สิงคโปร์แขวนคอประหารชีวิตนักโทษ ลอบนำกัญชา 1 กก.เข้าประเทศ
ปรัชญา อรเอก ผู้ประกอบการร้านกัญชาที่มีใบอนุญาต กล่าวว่า “สายพันธุ์ที่ปลูกในท้องถิ่นมีราคา 300 บาท ต่อกรัม แต่กัญชานำเข้ามีราคาเพียง 150-180 บาทต่อกรัมเท่านั้น”
เขาเสริมว่า “ในแต่ละวัน เรามีนายหน้าทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ซึ่งเป็นธุรกิจข้ามชาติอย่างแน่นอน เข้ามาที่ร้านของเราเพื่อพยายามขายกัญชานำเข้าให้กับเรา แต่เราปฏิเสธพวกเขาทั้งหมด”
ปรัชญากล่าวว่า นายหน้าบอกเขาว่า สินค้าถูกลักลอบนำเข้ามาในภาชนะบรรจุเฟอร์นิเจอร์และผลไม้หรือผัก “ดังนั้นเมื่อศุลกากรสแกน พวกเขาไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นกัญชา”
ภายใต้กฎหมายไทย การใช้กัญชาเพื่อสันทนาการยังคงถือว่าผิดกฎหมาย โดยกำหนดให้กัญชาถือเป็นสมุนไพรควบคุม ห้ามจำหน่ายให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี และสตรีมีครรภ์ ห้ามสูบในที่สาธารณะ ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ตาม การบังคับใช้กฎหมายที่อ่อนแอยิ่งกว่าแมวป่วย ทำให้มีร้านค้าและแผงขายกัญชาผิดกฎหมายแทบจะทุกหัวมุมถนนในเมืองใหญ่ ๆ ของประเทศไทย
เมื่อนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทยเพื่อเพลิดเพลินกับการใช้กัญชาเพื่อการสันทนาการที่แม้จะผิดกฎหมายแต่ก็ไม่มีการจัดการที่เข้มงวด ปรัชญากังวลว่า ธุรกิจไทยจะตกรางในตลาดที่พยายามสร้างขึ้นมานี้ และกลายเป็นผู้ค้าต่างชาติที่ได้ประโยชน์ไปแทนคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
“ท้ายที่สุดแล้ว ลูกค้าของเราสนใจเกี่ยวกับสาร THC มากกว่าที่มาของกัญชา” เขากล่าว โดยบอกว่า สายพันธุ์สหรัฐฯ มีระดับสาร THC ซึ่งเป็นสารประกอบที่ทำให้ผู้ใช้เมาได้ สูงกว่าสายพันธุ์ในไทย “เราต้องปกป้องตลาดในประเทศและสนับสนุนผู้ปลูกและเกษตรกรไทย”
พรรคภูมิใจไทย ซึ่งผลักดันนโยบายกัญชา กล่าวโทษเจ้าหน้าที่ที่ทุจริตสำหรับการนำเข้ากัญชาผิดกฎหมาย และโทษการฉวยโอกาสทางการเมืองนำเสนอข่าวเชิงลบเกี่ยวกับการปฏิรูปกัญชา
ศุภชัย ใจสมุทร สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์กับอัลจาซีราว่า “มีกฎหมายในการจัดการกับการนำเข้าที่ผิดกฎหมายอยู่แล้ว แต่คนที่ควรรับผิดชอบกลับไม่บังคับใช้ นั่นคือ เจ้าหน้าที่จากกรมศุลกากรและกรมการเกษตร … แต่ในระยะยาว เราจำเป็นต้องผ่านพระราชบัญญัติกัญชา เพื่อให้มีกฎหมายเฉพาะเพื่อจัดการกับปัญหาการลักลอบนำเข้ากัญชาโดยเฉพาะ”
ศุภชัยบอกว่า หอการค้าไทยประเมินว่า อุตสาหกรรมกัญชาในปีที่แล้วสร้างรายได้ประมาณ 40,000 ล้านบาทให้กับเศรษฐกิจในท้องถิ่น
แต่สำหรับผู้ค้าท้องถิ่นจำนวนมากที่แข่งขันกับผู้ค้าต่างประเทศ รายได้หรือผลกำไรนั้นช่างเจือจางเหลือเกิน
ผู้ประกอบการค้ากัญชาผู้ช่ำชองรายหนึ่งซึ่งใช้นามแฝง เล่าว่า เขาผันตัวมาขายกัญชาถูกต้องตามกฎหมาย โดยลงทุนมหาศาลในการทำดินและปุ๋ยของตัวเองเพื่อปลูกกัญชา แต่กลับพบว่ากัญชาของเขามีราคาแพงเกินไปสำหรับตลาดที่เต็มไปด้วยสินค้านำเข้าราคาถูก
“เกษตรกรไทยจำนวนมากหันมาปลูกกัญชาเพื่อพยายามฝึกฝนทักษะของพวกเขา … แต่ตลาดไทยกลับเต็มไปด้วยสินค้านำเข้าผิดกฎหมายราคาถูก ด้วยความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ไทยที่ฉ้อราษฎร์บังหลวง ความต้องการกัญชานำเข้าสูงมากในขณะนี้” ผู้ค้ารายนี้กล่าว
เรียบเรียงจาก Al Jazeera
ภาพจกา AFP